น้ำสลัดน้ำผึ้งมัสตาร์ด ส่วนผสม น้ำสลัดน้ำผึ้งมัสตาร์ด (สำหรับ 1 ที่) • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ • มัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา • น้ำมะนาวคั้นสด 1+1/2 ช้อนชา • เกลือไทย ปลายช้อนชา (เพิ่มความกลมกล่อมให้น้ำสลัด) • น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำน้ำสลัดน้ำผึ้งมัสตาร์ด • นำน้ำมะนาว น้ำผึ้ง เกลือไทย และมัสตาร์ดใส่ถ้วย จากนั้นคนให้เกลือละลาย ค่อย ๆ หยอดน้ำมันรำข้าว คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี เสร็จเรียบร้อย คำแนะนำ: มัสตาร์ดช่วยให้สีน้ำสลัดสวยงามขึ้น หากไม่ชอบรสชาติและกลิ่น ไม่ต้องใส่ได้ค่ะ น้ำสลัดจะหอมน้ำผึ้ง มะนาวชัดขึ้นค่ะ 7. น้ำสลัดสตรอว์เบอร์รี สายสุขภาพรออะไร จดสูตรไปทำกินกันเถอะ ดีต่อใจและกายจริง ส่วนผสม น้ำสลัดสตรอว์เบอร์รี (สำหรับ 2 ที่) • สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง หรือสตรอว์เบอร์รีสด 50 กรัม • น้ำมะนาวคั้นสด 1 ช้อนโต๊ะ • เกลือไทย 1/4 ช้อนชา • น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ (ตราดอยคำ) • น้ำมันรำข้าว 50 มิลลิลิตร • โยเกิร์ต 50 กรัม (ยี่ห้อ Richesse 0% Fat) วิธีทำสลัดสตรอว์เบอร์รี 1. ใส่สตรอว์เบอร์รี น้ำมะนาวคั้นสด เกลือไทย และน้ำผึ้งลงในเครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อสตรอว์เบอร์รีละเอียด 2. จากนั้นค่อย ๆ หยอดน้ำมันรำข้าวจนหมด ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน 3.
ถ้าให้พูดถึงอาหารยอดฮิตสำหรับการลดน้ำหนัก เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ คงต้องตอบว่า "สลัดผัก" แต่รู้หรือไม่ว่า กินสลัดผักไม่ถูกวิธี ก็ทำให้อ้วนได้เช่นกัน!!!
สำหรับผู้ที่สนใจปลูก ผักสลัด แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หรือเคยลงมือปลูกผักสลัดแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ บ้านและสวน School ได้รวบรวม 6 ข้อควรรู้เบื้องต้น สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นปลูกผักสลัดมาให้ทราบกัน 1. ทำความรู้จักผักแต่ละชนิด ก่อนจะลงมือปลูกผักสลัด จะต้องทราบวัตถุประสงค์ก่อนว่า เราจะปลูกผักสลัดเพื่อรับประทานเอง หรือเพื่อจำหน่าย หากปลูกเพื่อรับประทานเองก็สามารถเลือกพันธุ์ผักได้ตามต้องการ แต่หากต้องการปลูกเพื่อจำหน่าย ควรศึกษาตลาดว่าผักชนิดใดเป็นที่นิยม โดยพันธุ์ผักสลัดที่นิยมในประเทศไทยอยู่ในกลุ่มผักกาดหอม มี 4 ชนิด ได้แก่ ลีฟ ( Leaf) หรือลูสลีฟ (Loose Leaf) หรือลูสเฮด (Loose Head) เช่น กรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก เรดคอรัล เป็นต้น คอส ( Cos) หรือ โรเมน (Romaine หรือ Roman) เช่น L. sativa var. longifolia บัตเตอร์เฮด ( Butterhead) หรือบิบ (Bibb) เช่น L. sativa var. capitata คริสป์เฮด ( Crisphead) หรือไอซ์เบิร์ก (Iceberg) หรือผักกาดหอมห่อ ผักกาดแก้ว 2.
น้ำสลัดจิ้มแจ่ว สูตรนี้ใช้ซอสถั่วเหลืองแทนน้ำปลา ลดความคาวให้น้ำสลัดค่ะ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เค็มและเผ็ดตามหลัง ช้อนที่ใช้ตวงของเป็นช้อนอะไรก็ได้ที่ถนัดและมีอยู่ในบ้าน เพื่อความสะดวกและลดความยุ่งยากนะคะ ส่วนผสม น้ำสลัดจิ้มแจ่ว • น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ • ซอสภูเขาทอง 2 ช้อนโต๊ะ • น้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ • ผักชีใบเลื่อยสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ • พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ (ลดหรือเพิ่มได้) • มายองเนสสำเร็จรูป 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำน้ำสลัดจิ้มแจ่ว 1. นำซอสภูเขาทองและน้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายแดงละลายก่อน 2. เติมน้ำมะนาวคั้นสด ผักชีใบเลื่อยสับละเอียด และพริกป่น สุดท้ายตัวเพิ่มความมันคือ มายองเนส คลุกเคล้าให้เข้ากัน น้ำสลัดที่ได้มีลักษณะข้นเล็กน้อย สีออกครีม ๆ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เค็มและเผ็ดตามหลัง 2.
ลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง ผักผลไม้มีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ Antioxydants จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งหลายชนิด โรคหัวใจ ช่วยชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ทำให้เกิดความเสียหายช้าลง สารต้านอนุมูลอิสระจะมีอยู่ในผักต่างๆ ทั้งวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน ลูทีน สังกะสี นอกจากนี้ใยอาหารในผักยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย ดังนั้นทุกคนควรได้รับสารต้านอนุมูลอิสระให้พอเพียงต่อความต้องการในแต่ละวันเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง 4. ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เพราะผักหลายชนิดต่างอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวพรรณดูสดใสเปล่งปลั่งขึ้น เพราะอนุมูลอิสระเป็นตัวการที่ทำให้ผิวหนังเหี่ยว แก่ก่อนวัย สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ทั้งยังเป็นสารที่สามารถกระตุ้นภูมิต้านทานในร่างกาย 5.
เป็นคนแรกที่ได้ลองทำสูตรนี้ 0 ความคิดเห็น
น้ำสลัดโยเกิร์ตไขมันต่ำ ส่วนผสม น้ำสลัดโยเกิร์ตไขมันต่ำ • โยเกิร์ตไขมันต่ำ 3 ช้อนโต๊ะ • มัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา • เกลือป่นไทย 1 ช้อนชา • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา วิธีทำน้ำสลัดโยเกิร์ตไขมันต่ำ • นำโยเกิร์ตไขมันต่ำ มัสตาร์ด เกลือป่น และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน เย็นนี้ใครอยากกินสลัดผักหรือสลัดผลไม้เหมือนกันบ้าง มาหั่นผักหั่นผลไม้ใส่ภาชนะแช่เย็นรอเลยค่ะ พอทำน้ำสลัดเสร็จปุ๊บจะได้คลุกกินได้เลย ถ้าน้ำสลัดเหลือเก็บแช่เย็นไว้กินมื้อถัดไปได้นะคะ ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 3131224 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เชฟหมวย สอนทำสลัด เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยกแปลงสูงขึ้นมา 25 เซนติเมตร ใช้ไม้ไผ่ตีกั้นขอบเขตแปลง (เตรียมแปลงไม้ไผ่ครั้งเดียวสามารถใช้งานได้นานไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี) หรือจะยกแปลงขึ้นมาโดยไม่กั้นขอบแปลงก็ได้ 2. ตากดินไว้ 1 สัปดาห์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคและแมลงที่สะสมในดิน และทำเช่นนี้ทุกครั้งหลังจากเก็บผักและเปลี่ยนรอบการปลูกใหม่ จะช่วยป้องกันปัญหาเชื้อราได้ 3. หว่านปุ๋ยคอก (มูลวัว) ให้ทั่วแปลงกะปริมาณให้ปุ๋ยคอกคลุมแปลงทั้งหมด จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน 4. คลุมฟางให้ทั่วแปลง จากนั้นจึงย้ายต้นกล้า หากย้ายต้นกล้าก่อนจะคลุมฟางยาก 5.
เมนูสลัดไม่ได้มีแค่สลัดโรล หรือสลัดในชามเท่านั้นนะคะ แต่สลัดสามารถนำเสนอได้หลากหลายรูปแบบในชื่อเรียกที่ต่างกันออกไป แค่มีผักผลไม้เป็นส่วนประกอบบวกกับน้ำสลัดที่รสชาติโดนใจ ก็อร่อยได้แบบสุขภาพดีไม่มีเบื่อค่ะ จะนำเสนอสลัดให้คนทานแบบไหนดี ลองมาดูไอเดียเหล่านี้กันค่ะ 1. สลัดในชาม (Salad bowl) เป็นการนำเสนอสลัดแบบดั้งเดิม จุดเด่นคือใส่ผักอะไรก็ได้ที่เราชอบ จับผักผลไม้ทุกอย่างรวมกันในชามผสม ราดด้วยน้ำสลัดแล้วคลุกให้เข้ากัน ตักแบ่งใส่ชามของแต่ละคน อร่อยได้ในชามเดียว (สลัดทูน่า) 2. สลัดโรล (Salad roll) การนำเสนอสลัดรูปแบบใหม่ในช่วงหลายปีมานี้ เป็นที่นิยมมากเพราะคนทานทานได้ง่ายขึ้นแค่หยิบใส่ปากทีละคำเหมือนซูชิแล้วจิ้มน้ำสลัดที่ชอบ อร่อยครบใน 1 คำ ข้อเสียคือผักไม่หลากหลาย มีผักไม่กี่ชนิดที่นิยมนำมาโรลกัน ถ้าใครเพิ่มความหลากหลายก็จะสร้างจุดเด่นไม่น้อยเลยทีเดียว (สลัดโรลไข่ต้ม-น้ำสลัดพริกเผา) 3. Salad wrap สลัดแร้บ เป็นการนำเสนอเมนูสลัดที่คล้ายกับแซนด์วิช ซึ่งไม่ใช่แซนด์วิชสามเหลี่ยมที่เราคุ้นเคย แต่เป็นการห่อสลัดด้วยแผ่นแป้งกลมแบน แป้งอาจทำมาจากแป้งสาลีหรือแป้งข้าวโพดก็ได้ เป็นอาหารสไตล์ยุโรป เม็กซิกัน เมืองไทยบ้านเราก็มีขายตามร้านอาหารชื่อดัง วิธีทำไม่ยากเลยค่ะ เพียงนำสลัดมาห่อด้วยแผ่นแป้งสีขาวนี้ พันให้สวยด้วยกระดาษห่ออาหารอีกครั้งเพื่อให้จับง่าย ไม่เลอะมือ แค่นั้นเป็นอันเสร็จ 4.