อุรบานตอบว่า: ฉันสามารถสร้างปืนใหญ่ที่สามารถโจมตีและถล่มกำแพงที่แข็งแกร่งของกรุงคอนสแตนติโนเปิลไม่ว่ากำแพงนั้นมีความแข็งแกร่งดังกรุงบาบาล แท้จริงแล้ว ฉันเป็นนักวิศวกรรมไม่ใช่ทหาร ฉะนั้นฉันไม่รู้ว่าปืนใหญ่ที่จะสร้างนั้นจะตั้งอยู่ตรงจุดใหน?
ข้ามไปเนื้อหา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี วิลายะห์บอสเนีย ولايت بوسنی Vilâyet-i Bosnia 1867–1908 โดยนิตินัย 1867–1878 โดยพฤตินัย [1] ธงชาติ วิลายะห์บอสเนียในปี ค. ศ. 1880 เมืองหลวง ซาเลบอสนา ประวัติศาสตร์ • ก่อตั้ง 1867 • ถูกผนวกเข้ากับออสเตรีย 1878 • ออสเตรียเข้ายึดครอง 1908 พื้นที่ 1871 46, 000 ตารางกิโลเมตร (18, 000 ตารางไมล์) ประชากร • 1871 1232000 ก่อนหน้า ถัดไป เอยาเลต์บอสเนีย ดินแดนใต้การปกครองร่วมบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร Sources for population; [2] area [3] วีลายะห์บอสเนีย เป็นเขตการปกครองของ ออตโตมัน บนแผ่นดินบอสเนีย สืบทอดจาก เอยาเลต์บอสเนีย หลังการก่อกำเริบของชาวบอสเนีย รัฐบาลกลางออตโตมันจึงยกเลิกระบบแลนด์ลอดร์และให้บอสเนียเป็นวีลายะห์ โดยที่แรกยังเป็นเพียง วีลายะห์บอสเนีย จนในปี ค. 1883 ก็รวมกับเฮอร์เซโกวีนา เป็น วิลายะห์บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มีอำนาจการปกครองทางพฤตินัยตั้งแต่ปี 1867–1878 จนกระทั่ง ออสเตรีย-ฮังการี ได้เข้ายึดครองบอสเนียจากเหตุผลความอ่อนแอของออตโตมัน ทำให้บอสเนียเสียสูญและอาจกลายเป็นรัฐอิสระซึ่งจะเป็นอันตรายต่อออสเตรียในแง่ที่ว่ากลุ่มรัฐชาวสลาฟที่ออสเตรียปกครองอาจจะขอแยกดินแดน รัฐบาลวิลายะห์ดำรงในทางนิตินัยถึงปี 1908 จักรพรรดิแห่งออสเตรีย-ฮังการี ประกาศขึ้นเป็น พระมหากษัตริย์แห่งบอสเนีย และรวมบอสเนียเป็นรัฐร่วมประมุขกับออสเตรีย อ้างอิง [ แก้] อ้างอิง [ แก้]
1418; 1-3) หลังจากได้รับชัยชนะ สุลต่านอลาออุดดีนทราบข่าวพอพระทัยเป็นอย่างมากจึงเชิญแอร์ตุฆรูลเข้าเฝ้าในพระราชวัง สุลต่านทรงมอบเสื้อผ้าให้ มอบดินแดนให้กว้างขวางกว่าเดิม และทุกครั้งที่มีสงครามก็จะมีทหารแอร์ตุฆรูลเข้ามาสมทบกับทหารสุลต่าน ทุกครั้งที่เข้ารบก็ได้รับชัยชนะทุกครั้ง สุลต่านก็มอบดินแดนเพิ่มเติม ทำให้พวกเขามีทรัพย์สินเพิ่มเติมมากขึ้น ทหารของแอร์ตุฆรูลได้รับสมญานามจากสุลต่านว่า "มูก็อดดามะฮสุลต่าน (Mugadamah Sultan)" หมายถึงทัพหน้าของสุลต่าน เป็นกองหน้ากล้าตายให้กองทัพสุลต่าน (ดลมนรรจน์ บากา และมูหะมมัดรอฟลีแวหะมะ, 2542: 3) ในปี ฮ. 687 ตรงกับ ค.
1326 (ดลมนรรจน์ บากา และมูหัมมัดรอฟลี แวหะมะ 2542: 3-4) และอาณาจักรอุษมานียะห์ล่มสลายในปี ฮ. 1340 การล่มสลายอาณาจักรอุษมานียะห์ก็นับว่าเป็นการสิ้นสุดของรัฐอิสลาม (คีลาฟะฮ อิสลามียะฮ) การล่มสลายในครั้งนั้นเป้นแผนหนึ่งของยิวนานาชาติโดยผ่านองค์กรอัลอิตตีฮาดวาตูรอคี ซึ่งนำโดยมุสตอฟา กามาล อาตาเติกฮ เป็นยิวเชื้อชาติตุรกีซึ่งเขาแปลงสภาพเป็นมุสลิม (ฮาซัน นิอมาตุลลอฮ, 1418: 4) รายนามสุลต่านแห่งอาณาจักรอุษมานียะห์ รายนามสุลต่านแห่งอาณาจักรอุษมานียะห์ ปีกำเนิด(ค. ) ปีครองราชย์ (ค. ) 1. สุลต่านอุษมานที่ 1 1258 1299 – 1326 2. สุลต่านอรฮันที่ 1 1281? 1326 – 1360 3. สุลต่านมุร็อดที่ 1 1326 1360 – 1389 4. สุลต่านบายาซิดที่ 1 1360 1389 – 1403 5. สุลต่านมูฮัมหมัดที่ 1 1389 1403 – 1421 6. สุลต่านมูร็อดที่ 2 1403 ช่วงที่ 1 1421 – 1444 ช่วงที่ 2 1446 – 1451 7. สุลต่านมูฮัมหมัดที่ 2 (มูฮัมหมัดผู้พิชิต) 1432 ช่วงที่ 1 1444 – 1446 ช่วงที่ 2 1451 – 1481 8. สุลต่านบายาซิดที่ 2 1448 1481 – 1512 9. สุลต่านซาลิมที่ 1 1467/1470 1512 – 1520 10. สุลต่านสุไลมานที่ 1 (อัลกอนูนีย์) 1495 1520 – 1566 11. สุลต่านซาลิมที่ 2 1524 1566 – 1574 12.
1326 (ดลมนรรจน์ บากา และมูหัมมัดรอฟลี แวหะมะ 2542: 3-4) และอาณาจักรอุษมานียะห์ล่มสลายในปี ฮ. 1340 การล่มสลายอาณาจักรอุษมานียะห์ก็นับว่าเป็นการสิ้นสุดของรัฐอิสลาม (คีลาฟะฮ อิสลามียะฮ) การล่มสลายในครั้งนั้นเป้นแผนหนึ่งของยิวนานาชาติโดยผ่านองค์กรอัลอิตตีฮาดวาตูรอคี ซึ่งนำโดยมุสตอฟา กามาล อาตาเติกฮ เป็นยิวเชื้อชาติตุรกีซึ่งเขาแปลงสภาพเป็นมุสลิม (ฮาซัน นิอมาตุลลอฮ, 1418: 4) รายนามสุลต่านแห่งอาณาจักรอุษมานียะห์ ปีกำเนิด (ค. ) ปีครองราชย์ (ค. ) 1. สุลต่านอุษมานที่ 1 1258 1299 - 1326 2. สุลต่านอรฮันที่ 1 1281? 1326 - 1360 3. สุลต่านมุร็อดที่ 1 1326 1360 - 1389 4. สุลต่านบายาซิดที่ 1 1360 1389 - 1403 5. สุลต่านมูฮัมหมัดที่ 1 1389 1403 - 1421 6. สุลต่านมูร็อดที่ 2 1403 ช่วงที่ 1 1421 – 1444 ช่วงที่ 2 1446 - 1451 7. สุลต่านมูฮัมหมัดที่ 2 (มูฮัมหมัดผู้พิชิต) 1432 ช่วงที่ 1 1444 - 1446 ช่วงที่ 2 1451 - 1481 8. สุลต่านบายาซิดที่ 2 1448 1481 - 1512 9. สุลต่านซาลิมที่ 1 1467/1470 1512 - 1520 10. สุลต่านสุไลมานที่ 1 (อัลกอนูนีย์) 1495 1520 - 1566 11. สุลต่านซาลิมที่ 2 1524 1566 - 1574 12. สุลต่านมูริดที่ 3 1546 1574 - 1595 13.
20% แตะ 33. 12 ลบ.
มัสยิดเขียว มัสยิดนี้สร้างขึ้นในกรุงบุรซา 9. มัสยิดขันธี อิบรอฮีม ปาชา สร้างในกรุงอิสตันบูล นอกจากมัสยิดที่กล่าวมาแล้วยังมีมัสยิดอื่นๆอีกมาก ซึ่งไม่สามารถจะกล่าวในที่นี้ไดทั้งหมด นอกจากสร้างมัสยิดแล้วยังมีการสร้างสุสานอีกด้วย เช่น สุสานสุลต่านบายาซีดที่ 1 สุลต่านเมห์มัดที่ 1 นอกจากมัสยิด พระราชวัง สุสาน แล้ยังมีการสร้างอาคารอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โรงพยาบาลที่กรุงเอดิร์เน วิทยาลัยสุไลมานปาชาที่อิซนิก วิทยาลัยบายาซิด ยิลดัมซึ่งเป็นอาคารฮาเร็ม สร้างขึ้นสำหรับพระนาง มเหสีของสุลต่านสุไลมานที่ 1 ที่มา: Islamic center of psu Fathoni
1243 จึงตกเป็นรัฐใต้อาณัติของมองโกล และล่มสลายไปในที่สุดในปี ค.