วันที่ 01 มิ. ย. 2562 เวลา 18:53 น. ถึงนาทีนี้เสียงโหวตหนุน"บิ๊กตู่"นั่งนายกฯสูงลิ่วชนะแบเบอร์ แต่ต้องลุ้นเสียงส. ส. เกินครึ่งหรือไม่เพราะเป็นปัจจัยชี้อายุรัฐบาลอยู่สั้นหรือยาว การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ของที่ประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 5 มิ. ที่จะถึงนี้ หากไม่มีเหตุการณ์อัศจรรย์พันลึก พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงลอยลำเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 เหมือนเดิม อย่างแน่นอน ทั้งนี้เพราะคะแนนเสียงที่สนับสนุน พล. ประยุทธ์ ในเบื้องต้นขณะนี้ มีถึง 397 เสียง จากทั้งหมด 750(ส. 500+ส. ว. 250) เสียง โดยประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ(พปชร. )116 เสียง ชาติไทยพัฒนา(ชทพ. ) 10 เสียง รวมพลังประชาชาติไทย 5(รปช. ) พลังท้องถิ่นไท 3 (พทท. ) รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2(รป. ) พรรคเล็ก11 เสียง และ ส. 250 เสียง ทั้งที่ต้องการเพียง 376 เสียง พล. ประยุทธ์ ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ทว่าประเด็นสำคัญในเวลานี้ จึงต้องจับตาไปที่การโหวตของบรรดาส. จากพรรคการเมืองต่างๆที่เหลือว่า จะโหวตให้กับบิ๊กตู่เพิ่มอีกหรือไม่ ซึ่งจำนวนเสียงดังกล่าวนั้น สำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะเป็นปัจจัยชี้ถึงอนาคตของรัฐบาลว่าจะอยู่ได้ยืดยาวแค่ไหน และถ้ามี251 เสียงขึ้นไป จะทำให้บิ๊กตู่มีความชอบธรรม ในการเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยไม่ต้องถูกข้อครหา ปล้นอำนาจประชาชน โดยใช้ เสียงของส.
เอ้' สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และ พล. ต. อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ลงสมัครในนามอิสระ โดยมีองคาพยพของพรรคพลังประชารัฐช่วยอยู่ 3 คนนี้ มีกลุ่มฐานเสียงที่ใกล้เคียงกัน คือ ฝ่ายที่ไม่เอาระบอบทักษิณและไม่ชอบกลุ่มบุคคลที่จาบจ้วงสถาบัน โดยจะต้องแย่งคะแนนกันเอง ส่วนซีกฝ่ายค้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว. คมนาคม แม้จะลงในนามอิสระ แต่สังคมทราบว่า มีพรรคเพื่อไทยคอยซัพพอร์ตอยู่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการอำนวยการและพัฒนาพรรคไทยสร้างไทย 3 คนนี้ต้องตัดคะแนนกันเองเช่นกัน โดยมีฐานเสียงมาจากฝ่ายที่ไม่เอาเผด็จการ ไม่ชอบรัฐบาล และเสียงของคนรุ่นใหม่ การเลือกตั้งรอบนี้ทั้งสองฟากแชร์คะแนนกันสนุก โอกาสที่จะมีใครสักคนแตะถึงล้านเสียงน่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนรู้ว่า เป็นรอง แต่ยังเลือกที่ลงสมัคร ส่วนหนึ่งเพราะต้องการเช็กกระแสพรรคโดยใช้สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เป็นปฐมบท ความพ่ายแพ้ไม่ได้เสียหายสำหรับบางคน แต่จะทำให้รู้ว่า สถานะตัวเองทางการเมืองตอนนี้อยู่ตรงไหน ถึงแพ้ แต่แพ้กี่คะแนน แพ้ให้ใคร และตัวเองได้คะแนนเท่าไหร่ นอกจากนี้ เมื่อเอาคะแนนของผู้สมัครจากซีกฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมารวมกัน แต่ละฝ่ายได้เท่าไหร่ มันพอจะบอกความรู้สึกของคนกรุงที่มีต่อการเมืองภาพใหญ่ได้เหมือนกัน ทั้งรัฐบาล พล.
500 คน และ ส. ว. 250 คน ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องได้คะแนน 376 เสียง พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมเสียงให้ 'อุ๊งอิ๊ง' ได้ถึงหรือไม่ หากไม่มี ส. ลงมติให้เลย โอกาสที่ ส. ชุดนี้ที่ยังมีอายุการดำรงตำแหน่งเหลืออยู่ถึงรัฐบาลหน้าแน่ มีน้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อเป็น 'แบรนด์ชินวัตร' ส. ชุดนี้หลายคนล้วนแต่เป็นขั้วตรงข้ามระบอบทักษิณมาก่อน เป็นเส้นขนานกับตระกูลชินวัตร เสมือนงูเห่ากับพังพอน จะให้ยกมือโหวตให้ 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นนายกรัฐมนตรีแทบเป็นไปไม่ได้ แล้วอย่าลืมว่า ส. ชุดนี้ถูกร่อนตะแกรงเข้ามาก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้ง ภารกิจหลักๆ พูดกันตรงๆ คือ มาสกัดกั้นการกลับมาของ 'ระบอบทักษิณ' เป็นโจทย์หินที่ 'อุ๊งอิ๊ง' จะฝ่าไป ต่อให้ในการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยเกิดทำแลนด์สไลด์ได้ แต่ก็มีโอกาสจะไปเจอ ' เดดล็อก' ตรงนี้เหมือนกัน ได้เสียงข้างมาก ส. แต่ไม่พอดันทายาทตระกูลชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก่อนจะถึงตรงนั้น ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะฝันถึงการแลนด์สไลด์ ก่อนอื่นต้องให้กฎหมายลูก 2 ฉบับ นั่นคือ ร่าง พ. ร. ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส. และร่าง พ.
ต้องการให้ได้เสียงในสภา 251เสียงขึ้นไป จะต้องได้เสียงโหวต จากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ทั้งหมด เพราะถ้าได้จากพรรคประชาธิปัตย์มาบางส่วนไม่ครบทั้ง53 เสียง หรือได้มาครึ่งเดียวแบบมีงูเห่า จำนวนเสียงในสภาก็ไม่ถึง 251 อยู่ดี ประกอบกับ พรรคภูมิใจไทยได้ผูกเงื่อนเป็นสัญญาประคมไว้อีกว่าหากเสียงส. ในสภาผู้แทนราษฎรรวมกันไม่ถึงครึ่งก็จะไม่เข้าร่วมรัฐบาล ฉะนั้นนาทีนี้ต้องวัดใจ"พลังประชารัฐ"ว่า จะตั้งรัฐบาลเสียงข้องน้อยเพื่อไปตายเอาดาบหน้า หรือยอมยกเก้าอี้รมว. เกษตรและสหกรณ์ให้พรรคประชาธิปัตย์ไปเพื่อตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เพื่อลดข้อครหาความไม่ชอบธรรม และอาจจะอยู่ยืดยาวกว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย ขณะที่ฝ่าย 7 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ ที่รวมกันอย่างเหนียวแน่นมาตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง โดยมีทั้งหมด 246 เสียง นัดหารือกันในวันที่ 4 มิ. ว่า จะส่งใครมาสู้กับ พล. ประยุทธ์ ขณะนี้มีตัวเลือกเพียง 3 คน คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อย่างไรก็ตามเหตุที่ทั้ง 7 พรรคยังไม่รีบตัดสินใจ เพราะรอดูท่าที จากพรรคประชาธิปัตย์ว่า จะตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ และถ้าประชาธิปัตย์ ไม่ร่วมและส่งคนลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ซึ่งก็มีคนเดียวคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทาง 7 พรรคก็พร้อมจะเทเสียงไปสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯทันที เพราะมีลุ้นเล็กๆหวังมีส.
ตบเท้าเข้ามาร่วมงานจำนวนมาก ถึงวันเลือกตั้งจะโกยคะแนนเสียงแบบถล่มทลาย พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขับเคลื่อนประเทศตามนโยบายของพรรคเพื่อชาติไทยต่อไป โดยเฉพาะช่วงนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ ไม่พอกิน พรรคเพื่อชาติไทยจึงได้ลงพื้นที่มอบข้าวสารให้กับประชาชนคนละ 1 ถุงๆละ 5 กิโลกรัม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก -005
กลุ่มเดิม ที่พรรคตั้งคณะกรรมการสอบฯ และภาคทัณฑ์ไว้
เมื่อเวลา 10. 00 น. วันที่ 4 ก. ย. 2564 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อ ลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุม เพื่อลงมติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจ พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว. กลาโหม และ 5 รัฐมนตรี แบบกดบัตรลงคะแนนเสียง โดยมีสมาชิก 482 คน ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 241 เสียง หากไม่ไว้วางใจต้องมากกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 242 เสียง โดยสมาชิกท่านใดเห็นควรไม่ไว้วางใจ กดปุ่ม เห็นด้วย หากไว้วางใจ กดปุ่ม ไม่เห็นด้วย ผลการลงมติ พล. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรากฏว่า เห็นด้วย 208 คะแนน ไม่เห็นด้วย 264 คะแนน งดออกเสียง 3 คะแนน ไม่ลงคะแนน 0 คะแนน มติที่ประชุม ไว้วางใจ ผลการลงมติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. สาธารณสุข ปรากฏว่า เห็นด้วย 196 คะแนน ไม่เห็นด้วย 269 คะแนน งดออกเสียง 11 คะแนน ไม่ลงคะแนน 0 คะแนน มติที่ประชุม ไว้วางใจ ผลการลงมติ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว. แรงงาน ปรากฏว่า เห็นด้วย 201 คะแนน ไม่เห็นด้วย 263 คะแนน งดออกเสียง 10 คะแนน ไม่ลงคะแนน 1 คะแนน มติที่ประชุม ไว้วางใจ ผลการลงมติ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.